User Review
( vote)Summary
บริษัทPepperstoneจำกัดเป็นบริษัทที่อยู่ภายใต้Pepperstone Groupจำกัด ซึ่งเป็นบริษัทเทรดดิ้งออนไลน์ของออสเตเรียที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี2010 ในปี2016นั้น Pepperstone ได้เปิดให้บริการกับประเทศอังกฤษ โดยได้มีเป้าหมายว่าจะเปิดบริการให้กับชาวยุโรปและอังกฤษให้เข้าถึงฝ่ายบริการลูกค้าและการเทรดให้สะดวกมากขึ้น
Pros
• เป็นโบรกเกอร์ออนไลน์ที่ได้รับการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ
• บริการช่วยเหลือลูกค้าแบบส่วนตัวที่ดีเยี่ยม
• เครื่องมือในการเทรดมากมายให้เลือก
• มีแพลตฟอร์มกว่า11ชนิดจากทั้ง MetaTraderและcTrader
• ปกป้องเงินของผู้ใช้โดยมีการแยกเอาไว้จากเงินหมุน
Cons
• บัญชีทดสอบใช้ได้แค่30วันเท่านั้น
• ไม่เปิดบริการให้กับสหรัฐอเมริกา
• ไม่มีระบบป้องกันเงินติดลบ
Pepperstoneนั้นได้รับรางวัลต่างๆมากมายดังต่อไปนี้:
- รางวัลฟอเร็กซ์จากออสเตเรีย6รางวัล – Investment Trends 2017ได้ให้รางวัลในสาขา บริการลูกค้ายอดเยี่ยม สเปรดดี มีความคุ้มค่ส เครื่องมือให้ความรู้ยอดเยี่ยม บริหารความเสี่ยงยอดเยี่ยม และนำเงินออกได้อย่างดี
- ได้รับรางวัลต่างๆจากอังกฤษในปี2018 ได้แก่ รางวัลบริการเทรดยอดเยี่ยม โบรกเกอร์ECNยอดเยี่ยม และสภาพแวดล้อมการเทรดยอดเยี่ยม
- ได้รับรางวัลโบรกเกอร์ออสเตเรียยอดเยี่ยมและพลตฟอร์มยอดเยี่ยมจากCompare Forex Broket.com.auในปี2018
- รางวัลนักลงทุนหน้าใหม่ยอดเยี่ยมในปี2014
- รางวัล Deloitte 2013 Technology Fast 50 ในปี2013
- รางวัลแพลตฟอร์มอัจฉริยะยอดเยี่ยมในปี2012
Pepperstoneเชื่อถือได้แค่ไหน?
Pepperstoneนั้นได้รับใบอนุญาตอย่างถูกต้องและเป็นโบรกเกอร์ที่ได้รับการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ เราแนะนำให้คุณเข้าไปอ่านข้อมูลและเอกสารด้านกฎหมายเกี่ยวกับ Pepperstoneจำกัด(UKและEEA) และ Pepperstone Group(ออสเตเรีย) เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายต่อต้านการฟอกเงิน เงื่อนไขต่างๆเรื่องความเสี่ยง นโยบายความเป็นส่วนตัวและข้อมูลอื่นๆ ซึ่งสามารถอ่านได้บนเว็บไซต์ทางการ
ผู้ใช้สามารถติดต่อเข้าไปที่บริการลูกค้าได้ด้วยวิธีดังนี้:
- โทรศัพท์ – สามารถโทรไปได้ฟรีที่ +44(800)0465473สำหรับประเทศอังกฤษ 1300-033-375สำหรับออสเตเรีย +61-3-9020-0155(โทรศัพท์) และ +61-3-8679-4408(แฟกซ์)
- อีเมล – ติดต่ออีเมลไปที่ [email protected]
- แบบฟอร์มออนไลน์ – ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าผ่านทางออนไลน์ด้วยข้อความต่างๆได้
ทำไมถึงเลือกโบรกเกอร์นี้?
ผู้ใช้มีโบรกเกอร์ต่างๆมากมายให้เลือกได้ และสาเหตุที่หลายๆคนเลือกใช้Pepperstoneมีดังนี้
- แพลตฟอร์มทรงประสิทธิภาพ – Pepperstoneนั้นทำให้การเทรดสะดวกสบายขึ้น คุ้มค่า และรวดเร็ว โดยจะให้แพลตฟอร์มต่างๆเช่นcTraderและMetaTrader4รวมทั้งสเปรดที่ต่ำถึง 0.0pips
- ใช้เทคโนโลยีล่าสุดเสมอ – Pepperstoneนั้นได้ใช้เทคโนโลยีล่าสุดที่ทำให้ค่าสเปรดต่ำและมีความลื่นไหลเป็นอย่างมาก ซึ่งช่วยในการเฮจจิ้งและการเงินเป็นอย่างมาก รวมทั้งแพลตฟอร์มที่รวดเร็ว พึ่งพาได้ ทรงประสิทธิภาพ และรวดเร็ว
- ประสบการณ์การเทรดที่ยอดเยี่ยม – ผู้ใช้สามารถใช้เครื่องมือระดับสูงได้โดยไม่ต้องสมัครบัญชีแบบพิเศษหรือยุ่งยากใดๆ สามารถทำการเทรดได้รวดเร็วในราคาที่ต่ำถึง 0.0ยูโร/ดอลล่าห์ ซึ่งรวมไปถึงบัญชีแบบรายย่อยสุดที่ AU$200 และพร้อมให้บริการกับสไตล์การเทรดที่หลากหลาย
- เครื่องมือการเทรด – Pepperstoneนั้นมีเครื่องมือการเทรดที่หลากหลาย ทั้ง WebTrader แอพพลิเคชั่นมือถือ บริการตามพื้นที่ และบทวิเคราะห์บัญชีแบบแอดวานซ์
- ได้รับการตรวจสอบและใบอนุญาต – โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์นี้ได้รับการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนั้นยังได้มีการแยกเงินนำเข้าของผู้ใช้แยกเอาไว้จากเงินหมุน ซึ่งอยู่ภานใต้การทำงานของ ธนาคาร Barclays (อังกฤษ) และ National Australia Bank (ออสเตเรีย) ได้รับการตรวจสอบและใบอนุญาตจาก UK Financial Conduct Authority (FCA) และ Australian Securities and Investment Commission (ASIC)
- บริการช่วยเหลือลูกค้า – Pepperstoneได้รับรางวัลและคำชื่นชมอย่างมากในเรื่องของการบริการช่วยเหลือลูกค้าที่ยอดเยี่ยม โดยจะเป็นบริการแบบรายบุคคล เพราะว่าทีมบริการลูกค้านั้นมีประสบการณ์มาหลายปีจึงทำให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นที่พึงพอใจของลูกค้า
ชนิดของบัญชี
ผู้ที่สนใจสามารถเปิดบัญชีได้2ชนิดบนPepperstone:
บัญชีทดสอบ
การเริ่มต้นใช้งานPepperstoneที่ดีที่สุดคือการเปิดบัญชีทดสอบขึ้นมาก่อน และทดลองฝึกฝนใช้ระบบและเทรดโดยไม่ต้องนำเงินจริงไปเสี่ยง โดยบัญชีทดสอบนั้นจะสามารถใช้ได้เป็นเวลา30วัน ผู้ใช้ใหม่สามารถเปิดบัญชีทดสอบนี้และจะได้รับเงินสมมุติเป็นจำนวน $50,000 โดยมีขั้นตอนการสมัครดังนี้
- เลือกชนิดของบัญชี(บัญชีทดสอบ)จากส่วนที่ให้เลือกได้
- ติ๊กลงในช่องที่ยืนยันว่าผู้สมัครมีอายุ18ปีขึ้นไปและยอมรับในเงื่อนไขการให้บริการของทางโบรกเกอร์
- สมัครโดยเชื่อมต่อกับบัญชีGoole, LinkedIn หรือ Facebook
- หากไม่ต้องการเชื่อมบัญชี ผู้สมัครสามารถกรอกชื่อ นามสกุล อีเมล และเบอร์โทรศัพท์แทนได้ จากนั้นให้สร้างพาสเวิร์ดขึ้นมาแล้วกดปุ่มสมัครสมาชิก
ขั้นตอนข้างต้นนั้นจะทำให้ผู้สมัครสามารถเปิดบัญชีเป็นของตัวเองได้ จากนั้นให้ลงชื่อเข้าใช้เข้าไปผ่านทางหน้าเว็บ ดาว์นโหลดแพลตฟอร์มที่ต้องการ และเริ่มการทดสอบการเทรดได้โดยไม่ต้องเสี่ยงอะไรทั้งสิ้น
บัญชีไลฟ์
ขั้นตอนในการเปิดบัญชีไลฟ์นั้นก็คล้ายกับการเปิดบัญชีทดสอบ
- เลือกชนิดของบัญชี – โดยจะมีบัญชีชนิดต่างๆให้เลือกเช่น ส่วนบุคคล บริษัท สินเชื่อ สินเชื่อบริษัท และโบรกเกอร์
- กรอกรายละเอียด – สมัครจะต้องระบุประเทศที่อาศัย ชื่อ นามสกุล และอีเมล จากนั้นทำการสร้างพาสเวิร์ดขึ้นมาและกดปุ่มสมัครสมาชิก
- สมัครผ่านการเชื่อมบัญชีโซเชี่ยล – นอกจากวิธีข้างต้นแล้ว ผู้สมัครสามารถสมัครใช้บริการได้ผ่านทางการเชื่อมต่อเข้ากับบัญชีของGoogle Facebook หรือ LinkedIn
เลือกใช้แพลตฟอร์มได้กว่า11ชนิด
โบรกเกอร์นี้ได้มีการเตรียมแพลตฟอร์มไว้ให้บริการถึง11แพลตฟอร์ม ทั้ง cTrader และMetaTrader สำหรับมือถือ Mac และคอมพิวเตอร์
แพลตฟอร์มMetaTrader4
แพลตฟอร์มนี้มีอินเตอร์เฟสที่ใช้งานได้สะดวก และสามารถทำการปรับแต่งสภาพการเทรดได้ เพื่อทำให้ประสบการณ์การเทรดนั้นสะดวกสบายมากขึ้น โดยแพลตฟอร์มนี้มีฟีเจอร์ต่างๆมากมายทั้งแต่ภาษาMQL ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้สามารถเขียนโปรแกรมสร้างตัวบ่งชี้ขึ้นมาได้ นอกจากนั้นยังมีคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ(EAs)ซึ่งจะช่วยให้เทรดได้24ชั่วโมง5วันต่อสัปดาห์
มีฟีเจอร์หลักอีกอย่างของMetaTraderก็คือ มีตัวบ่งชี้ที่มีให้อยู่แล้วถึง85ชนิด หน้าต่างดูการเคลื่อนไหวตลาด สั่งการออร์เดอร์หลากหลายรูปแบบ ตัวหน้าต่างนาวิเกเตอร์ ตั้งชาร์ทได้หลายอัน เครื่องมือวิเคราะห์ต่างๆ ความสามารถในการสั่งการ และอื่นๆอีกมากมาย
cTrader
แพลตฟอร์มcTraderนั้นมีหลากหลายรูปแบบเช่น cTrader cAlgo, cTrader Mobile และ cTrader WebTrader ซึ่งเป็นที่นิยมมาก และเป็นแพลตฟอร์มที่มีความทันสมัยสูงจนถึงขั้นล้ำสมัยในบางเรื่อง
cTraderนั้นเป็นแพลตฟอร์มที่ใช้งานสะดวกและปรับแต่งได้ สามารถย้ายที่ของชาร์ทและเครื่องมือตั้งค่าอัตโนมัติให้กับทั้งผู้ใช้ใหม่และผู้ใช้มืออาชีพ ผู้ใช้สามารถจัดการพื้นที่และการซื้อขายต่างๆผ่านการบริหารออเดอร์และระบบชาร์ทที่ทันสมัย ฟีเจอร์เด่นของแพลตฟอร์มนี้ได้แก่ การซื้อขายอัตโนมัติผ่านทางแพลตฟอร์ม เทคนิคชาร์ท เครื่องมือตรวจสอบต่างๆ ชาร์ทที่ย้ายที่ได้ และการตั้งราคาแบบlevel II
เครื่องมือการซื้อขาย
Pepperstoneนั้นมีสินค้าต่างๆมากมายให้ผู้ใช้ที่มีสไตล์การซื้อขายที่แตกต่างกันออกไป มีสกุลเงินกว่า70ชนิด สินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆเช่น ก๊าซธรรมชาติและน้ำมัน โลหะมีค่าอย่างทองและเงิน รวมไปถึงดัชนีหุ้นอีกด้วย
- การเทรดฟอเร็กซ์ – โบรกเกอร์นี้มีจุดมุ่งหมายหลักคือการให้บริการทางด้านการเทรดฟอเร็กซ์ ถึงแม้จะได้มีการเพิ่มชนิดของสินค้าเข้ามาให้หลากหลายมากขึ้น แต่ฟอเร็กซ์ก็ยังคงเป็นเป้าหมายหลัก โดยมีสเปรดที่ต่ำถึง0.0pipบนคู่สกุลเงินต่างๆอย่าง AUD/USD, USD/JPY, EUR/USD, และUSD/JP นอกจากนั้นยังมุ่งเน้นไปในเรื่องของการสั่งการที่มีคุณภาพ สามารถยืมเงินได้ด้วยอัตรา 500:1 สำหรับมืออาชีพ และ 30:1สำหรับผู้ซื้อขายรายย่อย ไม่มีรายจ่ายแฝง และเชื่อถือได้
- การเทรดIndex CFD – โบรกเกอร์นี้มีCFDที่ไม่มีการรีโควต โปร่งใส และไม่มาร์คอัปแฝง สามารถเข้าถึงหุ้นหลักๆได้ถึง14ชนิดจากทั่วโลก
- โลหะมีค่า – Pepperstoneนั้นมีการสั่งการที่รวดเร็ว ไม่มีค่าคอมมิชชั่น มีทางเลือกในการยืมเงินที่ยืดหยุ่น และมีโมเดลที่ทำให้คุณค่าราคา ทำให้การซื้อขายโลหะต่างๆอย่าง พาลาเดียม แพลตตินัม เงิน และ ทอง เป็นเรื่องง่าย
- พลังงาน – สามารถทำการเทรด Brent Crude Oil รวมไปถึง น้ำมันดิบWest Texas Intermediate และก๊าซธรรมชาติอีกด้วย โดยล๊อตของสินค้าประเภทพลังงานในPepperstoneจะมีขนาดตั้งแต่10cต่อpip ไม่มีค่าคอมมิชชั่น สามารถยืมเงินได้ด้วยอัตรา30:1สำหรับผู้ซื้อขายรายย่อย และ 500:1 สำหรับมืออาชีพ
- สกุลเงินดิจิตัล – สามารถเทรดเงินดิจิตัลได้ทั้ง Ethereum, Bitcoin Cash, Bitcoin, Litecoin, และDash เมื่อเทียบกับเงิน USD สามารถยืมเงินได้ด้วยอัตรา 5:1 สำหรับนักเทรดมืออาชีพและ 2:1สำหรับผู้ซื้อขายรายย่อย
- สินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ – โบรกเกอร์นี้ยังทำให้คุณสามารถเข้าถึงสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆเช่น น้ำตาล กาแฟ น้ำส้ม นุ่น และโกโก้ได้อีกด้วย
ไกด์ในการนำเงินเข้า
Pepperstoneมีช่องทางในการรับเงินเข้าดังต่อไปนี้:
- บัตรเครดิต/เดบิต VisaหรือMasterCard – จะใช้เวลาในการดำเนินการประมาณ24ชั่วโมง และสามารถนำเงินเข้าได้ด้วยสกุล AUD, GBP, EUR, NXD, USD, SGD, และ JPY โดยหากใช้AUDจะมีค่าธรรมเนียมที่1.8% และ3%หากใช้สกุลเงินอื่นๆ
- Skrill – Skillนั้นเป็นช่องทางที่สามารถนำเงินเข้าได้ในทันที ไม่มีค่าธรรมเนียมใดๆ และรับเงินเป็น AUD, USD, JPY,และ EUR
- Neteller – Netellerสามารถนำเงินเข้าบัญชีได้ทันทีและไม่มีค่าธรรมเนียมในการนำเงินเข้า แต่หากใช้ในการถอนออกแล้วจะมีค่าธรรมเนียม US$1 สกุลเงินที่ยอมรับได้แก่ AUD, USD, GBP, JPY,และ EUR
- จากโบรกเกอร์อื่น – สามารถนำเงินเข้าจากโบรกเกอร์อื่นเข้ามาในบัญชีของPepperstoneได้ โดยจะใช้เวลาประมาณ2-3วัน
Pepperstoneนั้นจะไม่มีค่านำเงินเข้าแต่อย่างใด แต่ธนาคารหรือช่องทางทางการเงินนั้นอาจจะมีค่าธรรมเนียมอยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม ทางPepperstoneจะไม่รับเงินจากบริษัทอื่นๆนอกเหนือจากที่ได้ระบุเอาไว้ และจะต้องเป็นชื่อของผู้ใช้เท่านั้น
วิธีนำเงินออก
ในการนำเงินออกนั้น จะต้องลงชื่อเข้าใช้บัญชีของตนก่อน และPepperstoneจะทำการดำเนินการคำร้องของนำเงิออกก่อนเวลา 21:00 GMT หากส่งคำขอหลังจากนั้น จะถูกเลื่อนไปทำการในวันต่อไป
หากสถานบันทางการเงินนั้นต้องหักค่าธรรมเนียมในการส่งเงินข้ามประเทศ(TT) ทางบริษัทจะหักเงินส่วนนั้นออกจากเงินที่จะนำเงินออก โดยเฉลี่ยแล้วTTจะไม่ถึงP15 การนำเงินออกผ่านทางการโอนทางธนาคารนั้นจะต้องใช้เวลา1-3วันทำการ แต่บางครั้งอาจจะใช้เวลานานเป็นพิเศษหากเกิดเหตุการณ์อื่นๆขึ้น
สรุปภาพรวมและเรตติ้งของPepperstone
Pepperstoneนั้นเป็นโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ออนไลน์ที่เชื่อถือได้ในออสเตเรียและอังกฤษ ถึงแม้จะไม่มีแพลตฟอร์มของตัวเอง แต่ก็มีทั้งcTrader และ MetaTrader 4ให้ใช้งาน ผู้ใช้สามารถสร้างบัญชีชนิดต่างๆได้ตามความเหมาะสมและสามารถเลือกสินค้าเทรดได้กว่า90ชนิด มีสเปรดที่แคบ และค่าคอมมิชชั่นต่ำจนถึงไม่มีค่าคอมมิชชั่น
จากที่ได้กล่าวมาทั้งหมดแล้ว สามารถสรุปได้ว่า Pepperstoneนั้นเป็นโบรกเกอร์ที่ควรค่าแก่การแนะนำ เราขอแนะนำให้คุณเปิดบัญชีทดสอบเพื่อลองใช้ระบบต่างๆก่อนจะเปิดบัญชีไลฟ์ ผู้ใช้ใหม่สามารถเข้าไปหาความรู้เพิ่มเติมผ่านทางสัมมนาออนไลน์ บทความต่างๆ ไกด์ต่างๆ และแหล่งรวมศัพท์เฉพาะได้ที่หน้าเว็บไซต์