การซื้อขายนั้นเป็นสิ่งที่กว้างมาก แต่มีคนแค่จำนวนหนึ่งเท่านั้นที่สามารถจะสามารถหาเลี้ยงชีพได้ด้วยการ เทรดในหลายๆตลาด และในแต่ละตลาดก็จะมีกลยุทธ์ในการซื้อขายที่แตกต่างกันไป สำหรับหลายๆคนแล้ว มันเป็นเรื่องที่ต้องเป็นสไตล์ของตัวเอง แต่ก่อนที่คุณจะเลือกกลยุทธ์ของคุณนั้น คุณควรจะเริ่มจากระดับสูงก่อน มันมีการซื้อขายเชิงเทคนิคและเชิงรากฐาน แล้วให้คุณค่อยๆหาในสิ่งที่คุณต้องการจากสิ่งเหล่านั้น บทความนี้จะบอกรายละเอียดเกี่ยวกับสไตล์การซื้อขายแบบโมเมนตัม ซึ่งจะเป็นการวิเคราะห์เชิงเทคนิคในการซื้อขาย
การซื้อขายแบบโมเมนตัมคืออะไร
การซื้อขายแบบโมเมนตัมนั้นอธิบายได้ง่ายๆก็คือ การที่ผู้ซื้อขายใช้ชาร์ทและการวิเคราะห์ข้อมูลในการหาว่าหุ้นตัวไหนกำลังมาแรง แล้วซื้อไปตามกระแสนั้นไป อย่างไรก็ตาม มันเป็นเรื่องจำเป็นที่เทรนด์นั้นๆจะต้องมีกำลังที่เพียงพอในการสร้างกระแสให้ต่อเนื่อง และมันจะทำให้เราสามารถได้รับผลจากมันได้
เราจะมาเจาะลึกถึงรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการหาและจำแนกว่ามันจะเป็นเทรนด์ขึ้นมาหรือไม่ ซึ่งสามารถทำได้ตั้งแต่ใช้ของง่ายๆอย่างเช่นการดูเส้นต้านเส้นรับ คิดอาจจะรู้สึกเหมือนกับว่าเคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน เพราะมันก็คล้ายกับการซื้อขายแบบสวิง โดยการซื้อขายแบบโมเมนตัมนั้นจะเก็บเกี่ยวผลจากภาพรวมที่ใหญ่กว่า ในขณะที่แบบสวิงจะใช้วิธีการขยับทีละเล็กๆน้อยๆภายในกระแสเทรนด์
การซื้อแบบโมเมนตัม vs การตามเทรนด์
ผู้ที่ซื้อขายแบบโมเมนตัมนั้นจะมุ่งเน้นไปในเรื่องของการเร่งตัวของราคาหุ้นหรือรายได้ของบริษัท ซึ่งจุดนั้นเองที่เป็นข้อแตกต่างระหว่างการซื้อแบบโมเมนตัมกับแบบตามเทรนด์ เรามายกตัวอย่างด้วยเว็บAmazon ที่มีการเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ ผู้ที่ซื้อขายแบบโมเมนตัมนั้น ส่วนใหญ่จะเกาะกระแสส่วนนี้ขึ้นมา และสามารถหวังผลถึงการเติบโตของมันได้ในอนาคต พื้นฐานสำคัญของเทคนิคนี้คือการที่จะต้องดูถึงความแข็งแรง ศักยภาพ และเทรนด์ ทำให้มีคนเข้ามาเสริมกระแสกันมากขึ้น
การซื้อแบบตามเทรนด์นั้น จะเป็นแค่การมองที่ชาร์ท ตรวจสอบตัวชี้วัดนิดๆหน่อยๆ แล้วตัดสินใจซื้อตามๆคนอื่น ถึงแม้มันจะได้รับผลกำไรอยู่บ้าง แต่มันก็อาจจะโดนทำให้เข้าใจผิดได้ง่ายหากบริษัทนั้นๆแสดงตัวเลขที่ดูต่ำกว่าค่าเฉลี่ย นอกจากนั้น การซื้อแบบตามเทรนด์นั้นไม่ได้มีการศึกษารากฐานของบริษัทนั้นๆอย่างจริงจัง จึงทำให้ผิดพลาดง่าย
อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้หมายความว่าการซื้อขายชนิดใดชนิดหนึ่งแย่กว่ากัน แต่มันขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณเสียมากกว่า การซื้อขายแบบโมเมนตัมนั้นจะเจาะลึกเข้าไปถึงรากฐานของบริษัทนั้นๆ ซึ่งจะสามารถเผยให้เห็นถึงศักยภาพที่อาจจะซ่อนอยู่ โดยที่หลายๆคนมองข้ามเพราะว่ามันไม่ได้เป็นไปตามสูตร
ข้อดีแล้วข้อเสียของการซื้อขายแบบโมเมนตัม
วิธีการซื่อขายแต่ละรูปแบบต่างก็มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันไปเพราะแต่ละวิธีก็จะมีจุดที่มุ่งเน้นที่ต่างกัน การวิเคราะห์เชิงเทคนิคนั่นก็เป็นเพียงแค่การศึกษาชาร์ทต่างๆ ในขณะที่การเข้าไปดูรากฐานนั้นจะดูยากกว่าและไม่สามารถดูได้ด้วยแผนภูมิทั่วไป
ข้อดีส่วนหนึ่งของการซื้อขายแบบโมเมนตันก็คือ การที่ได้เข้าใจถึงสิ่งที่เป็นหัวใจของความแข็งแรงของหุ้นที่เลือก ในการที่เราจะเลือกโมเมนตัมได้นั้น เราจะต้องมั่นใจและเข้าใจถึงบริษัทนั้นๆเสียก่อน เพื่อที่จะได้รู้เวลาที่ควรซื้อและขายอย่างถูกต้อง
อีกข้อดีหนึ่งก็คือมันสามารถทำเงินคืนให้คุณได้เร็วกว่าการลงเงินแบบพาสซีฟ เพียงแค่คุณซื้อเพื่อที่จะตามกระแสคลื่นของมันไปจนกระทั่งหมดโมเมนตัม ซึ่งจะทำให้คุณได้รับผลตอบแทนกลับมามากกว่า ถึงแม้ว่ามันจะต้องใช้ความชำนาญเสียหน่อย แต่มันจะช่วยเพิ่มรายได้ของคุณอย่างมาก
ไม่ว่าจะเป็นวิธีใดก็ตาม มันต่างก็มีข้อจำกัดทั้งนั้น ข้อแรกคือการซื้อขายแบบโมเมนตัมนั้นจะต้องมีการใส่ใจเป็นอย่างมากเพราะคุณจะต้องวิเคราะห์เวลาที่จะซื้อขายให้ดี ซึ่งต้องใช้การวิเคราะห์ลงไปถึงหัวใจของบริษัทนั้นๆจากการดูรายได้โดยรวมหรือ EBITDA คุณจะสามารถบอกได้ว่าบริษัทนี้กำลังโตขึ้นหรือถอยลง แต่การจะวิเคราะห์นั้นจะต้องใช้เวลามาก เพื่อความมั่นคง
อีกข้อเสียหนึ่งที่จะต้องคำนึงถึงคือ เมื่อใช้การซื้อขายแบบโมเมนตัมแล้ว มันอาจจะทำให้มีความเสี่ยงต่อเงินทุนของคุณมากขึ้น เสี่ยงมากก็มีโอกาสได้มาก แต่คุณจะต้องมั่นใจว่าระบบของคุณนั้นใช้ได้ผลและจะได้รับผลกำไรจริงๆ เพราะโมเมนตัมนั้นสามารถขึ้นและลงได้เร็วพอๆกัน ดังนั้น จึงต้องมีแผนการณ์ที่ดีและมีการเช็คข้อมูลที่รัดกุม เพื่อความปลอดภัยของคุณเอง
เป็นไปได้ไหมที่จะทำออกมาได้ดีกว่า จุดมาร์ก S&P 500
คำตอบสั้นๆก็คือ ได้ มันเป็นไปได้ที่คุณจะสามารถทำได้มากกว่าS&P500 ไม่อย่างนั้นคงมีนักเทรดหลายๆคนที่มาไม่ถึงขนาดนี้ แล้วเลือกที่จะไปลงทุนหุ้น S&P500 แล้วก็ปล่อยไว้แบบนั้น
มีการศึกษาโดยมหาวิทยาลัยบัทเลอร์ ซึ่งสรุปออกมาได้สั้นๆว่า หากมีการเริ่มต้นการลงทุนอย่างถูกต้อง ผู้ที่ใช้วิธีการซื้อขายแบบโมเมนตัมนั้นจะสามารถได้รับกำไรมากกว่าการลงทุนS&P500 ถึงแม้บทความวิจัยที่ว่าอาจจะยาวเสียหน่อย แต่หากคุณมีเวลา เราขอแนะนำให้คุณอ่านดูเพื่อทำความเข้าใจกับมันมากขึ้น
และถึงแม้จะสามารถทำได้ดีกว่าการลงทุนกับS&P500แล้ว คุณต้องเข้าใจว่าในบางปีนั้น การซื้อขายแบบโมเมนตัมอาจไม่สามารถก้าวข้ามหุ้นที่ได้รับการยอมรับอย่างทั่วถึงได้ ส่วนใหญ่แล้ว เวลาที่การซื้อขายแบบโมเมนตัมจะโดดเด่นที่สุดคือช่วงที่ตลาดโดยรวมนั้นค่อนข้างนิ่ง เพราะในตอนที่ตลาดโดยรวมค่อนข้างนิ่งนั้น จะมีบริษัทบางแห่งที่สามารถทำออกมาได้ดีกว่าที่อื่น ทำให้มีโอกาสได้กำไรมากกว่า
จำเอาไว้ว่า มีผลจากการวิจัยได้บอกว่าการลงทุนแบบพาสซีฟจะมีโอกาสได้กำไรมากกว่าในระยะยาว ดังนั้น การลงทุนแบบโมเมนตัมจะเป็นวิธีที่ดีมากในการกระตุ้นเงินหมุนของคุณให้มากขึ้นหากคุณต้องการผลกำไรที่มากขึ้น ตัวอย่างเช่น ตั้งแต่ปี2009มาจนถึงตอนนี้ ตลาดมีการเคลื่อนไหวไปในทางที่ดีมาก และนักลงทุนหลายๆคนก็ได้รับผลที่พอใจแล้ว แต่เมื่อดูเฉพาะปี2022 เราอาจจะเห็นว่าผลกำไรมันอาจจะไม่ดีเท่ากับการลงทุนแบบโมเมนตัม ดังนั้นมันจึงเป็นโอกาสที่น่าสนใจโดยการลงทุนในบริษัทบางบริษัทเป็นพิเศษ
ค่าการโอน
มีค่าใช้จ่ายนึงที่หลายๆคนมักจะลืมคิดไปเวลาพวกเขากำลังเริ่มลงทุนก็คือ ค่าธรรมเนียม ซึ่งจริงๆแล้วสามารถคิดรวบให้มันกลายเป็นส่วนหนึ่งของค่าลงทุนไปก็ได้ แต่ก็ต้องระวังเอาไว้บ้าง ค่าโอนนั้นจะเป็นสิ่งที่กินผลของคุณไปส่วนหนึ่ง โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นคนที่ลงทุนหรือซื้อขายบ่อยๆ ดังนั้น เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่าย ให้คุณลองหาโบรกเกอร์ที่มีข้อเสนอพิเศษให้กับคุณในการผากเงิน หรือใช้บริการของโบรกเกอร์ที่ไม่มีค่าธรรมเนียมการโอนอย่างเช่น Robinhood
นอกจากนั้น ยังมีสิ่งที่ขึ้นอยู่กับตลาดที่คุณต้องซื้อขายอีก คุณควรที่เข้าไปดูส่วนที่แสดงถึงความกว้างของbidและask มันเป็นจุดที่ทำให้มีความแตกต่างระหว่าง ผู้ซื้อ และ ผู้ขาย ยิ่งที่ค่าbid และ askที่กว้าง คุณก็จะยิ่งมีโอกาสเสียส่วนต่างตรงนั้นมากขึ้น ถึงแม้ความกว้างของมันจะไม่ได้เป็นตัวบอกว่าไม่ดี แต่มันก็บ่งบอกได้ว่ามันเป็นตลาดที่เคลื่อนไหวฝืดกว่า และมีคนให้ความสนใจที่น้อยกว่า
สุดท้ายนี้ อย่าลืมว่า ถ้าคุณมีเงินไม่พอในการซื้อหุ้น คุณจะต้องใช้เงินจากการกู้ คุณไม่ควรถือหุ้นระยะสั้นเอาไว้ เพราะมันอาจกินเข้าไปถึงมาร์จินและค่าดอกเบี้ยของเงินที่คุณยืมมาชั่วคราว รวมไปถึงค่าการซื้อขายด้วย
การซื้อขายแบบโมเมนตัมนั้น คุ้มค่าหรือไม่
ถ้าให้ตอบสั้นๆคือ คุ้ม การซื้อขายแบบโมเมนตัมนั้น เป็นสิ่งที่ควรจะลองดูเป็นทางเลือกในการเพิ่มรายได้ของคุณ อย่างไรก็ตาม มันเป็นเรื่องที่จะต้องทำด้วยสติและความเข้าใจเพราะมันสามารถมีผลกระทบต่อเงินทุนของคุณได้เช่นกัน
เมื่อเริ่มการซื้อขายแบบโมเมนตัมแล้ว ให้คุณจำไว้ว่า นอกจากคุณจะต้องคอยดูชาร์ทต่างๆแล้ว คุณจะต้องเจาะลึกเข้าไปถึงหัวใจและรากฐานของบริษัทนั้นๆ ซึ่งต้องใช้ความสามารถในการดูเรื่องการเงินและความเข้าใจระดับหนึ่ง ถึงแม้การลงทุนครั้งนั้นอาจจะไม่ได้ผล แต่ประสบการณ์ที่คุณได้รับก็จะช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจได้ดีขึ้นในครั้งต่อๆไป
เมื่อคุณได้ทำแบบนั้นแล้ว คุณจะต้องใส่ใจกับเรื่องจังหวะการซื้อขาย และคอยดูการเคลื่อนไหวของโมเมนตัมดีๆ ให้ดูดูภาพการเคลื่อนไหวโดยรวมไวเพื่อที่จะตักตวงผลและเพิ่มรายได้ของคุณมากกว่าเมื่อเทียบกับการซื้อขายแบบพาสซีฟ สุดท้ายนี้ คุณจะต้องตรวจสอบค่าโอนและค่าธรรมเนียมให้ดี และลดการกู้ยืม
จากที่กล่าวมาทั้งหมดแล้ว การซื้อขายแบบโมเมนตัมนั้นเป็นสิ่งที่น่าศึกษาและคุ้มค่ากับเวลาของคุณเพราะมันมีโอกาสที่จะได้รับผลมากกว่าS&P500 แต่มันก็ไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคน ดังนั้น ให้คุณเริ่มโดยการใช้บัญชีทดลองก่อนบนแพลตฟอร์มที่คุณถนัด และลองทดลองดู คุณจะเห็นว่ามันจะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับคุณ และสามารถให้คุณยังได้รับผลกลับมาในช่วงที่ตลาดฝืดหรือนิ่ง แต่ต้องทำให้มั่นใจว่าสิ่งที่คุณทำนั้นไม่ได้เป็นแบบสวิง หรือซื้อขายแบบวันเดียว เพราะทั้งคู่ต่างก็เป็นเทคนิคที่ต้องใช้ความสามารถที่ต่างกันไป การซื้อขายแบบโมเมนตัมนั้นเป็นสิ่งที่ให้ผลได้จริง แต่ก็ต้องใช้เวลาและการฝึกฝน